บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (“AWC”) ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แบบบูรณาการระดับชั้นนำ โดยให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก โดยกลุ่มธุรกิจหลักของ AWC แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยมีธุรกิจโรงแรมเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลัก

ด้วยรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่เป็นเอกลักษณ์ AWC ร่วมมือกับแบรนด์โรงแรมที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติเพื่อบริการจัดการโรงแรมที่เป็นที่มีชื่อเสียง ได้แก่ กลุ่มโรงแรม แมริออท อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, เลอ เมอริเดียน, เชอราตัน, คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท, บันยันทรี, ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส, ดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน, มีเลีย และ ดิ โอกุระ

AWC มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในสำคัญที่เกี่ยวกับการดำเนินงานของโรงแรมในเครือ สนับสนุนให้บริษัทในเครือนำแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและความยั่งยืนของแบรนด์โรงแรมแต่ละแห่งมาใช้เพื่อมุ่งสู่เส้นทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ AWC

การจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Target: To become a carbon-neutral organization (Scope 1 and 2) by 2030

AWC มุ่งเน้นการพัฒนาในด้านสิ่งแวดล้อม (Better Planet) โดยกำหนดกลยุทธ์และดำเนินตามแผนงานการจัดการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Strategy) เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 บริษัทขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศและประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในทุกขั้นตอนการดำเนินงาน เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบจนถึงการส่งมอบบริการ โดยประเมินตามมาตรฐานดังต่อไปนี้

  • แนวทางการรายงานและคำนวณก๊าซเรือนกระจกของ Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC)
  • แนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ตามแนวทางขององค์การจัดการก๊าซเรือนกระจก (TGO)
  • ISO14064-1:2018
  • GHG Protocol Corporate Accounting and Reporting Standard
  • GRI standard - GRI 305 Emission 2016

AWC ได้ยกระดับขีดความสามารถขององค์กรในการบริหารการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานผ่านการรับรองด้วยมาตรฐานสากล อาทิ อาคารสีเขียว (LEED, WELL and EDGE) และการลงทุนในเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ AWC ยังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนและลดต้นทุนการใช้พลังงาน รวมถึงมีแผนที่จะดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์และบริการที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ ทั้งนี้ บริษัทมีแนวทางในการลดการปล่อยคาร์บอน โดยมุ่งสร้างการดูดกลับหรือการชดเชยคาร์บอนผ่านกิจกรรมการปลูกป่าเพิ่มพื้นที่สีเขียว และนอกจากนี้บริษัทยังมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการมีส่วนร่วมกับชุมชน และการเพิ่มรายได้จากผลิตภัณฑ์และบริการที่ปล่อยคาร์บอนต่ำอีกด้วย

ผลการดำเนินงานปี 2566

ปริมาณก๊าซเรือนกระจก (ขอบเขตที่ 1, 2 และ 3)

(หน่วย: ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)

ขอบเขต หน่วย 2563 2564 2565 2566 เป้าหมาย
ขอบเขตที่ 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 9,486.81 9,791.90 9,442.74 12,321.62 14,988
ขอบเขตที่ 2 (วิธีคำนวณตามตลาด: Market-based) ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 91,206.11 69,748.09 83,605.31 95,170.53 110,427
ขอบเขตที่ 2 (วิธีคำนวณตามสถานที่ตั้ง: Location-based) ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 91,206.11 69,748.09 83,863.18 97,095.96 110,494
ขอบเขตที่ 3 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า - - 47,906.77 57,952.40 81,440

หมายเหตุ: การเก็บข้อมูลของขอบเขตที่ 3 เริ่มเก็บตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา

การจัดการคุณภาพอากาศ

บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการคุณภาพอากาศในพื้นที่โครงการที่กำลังดำเนินการก่อสร้างและเปิดดำเนินการ โดยมีมาตรการควบคุม ป้องกัน ลดผลกระทบ และตรวจติดตามคุณภาพอากาศในบรรยากาศ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายและเกณฑ์การจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) ตามมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศโดยทั่วไป (National Ambient Air Quality Standards)

ตลอดระยะเวลาการก่อสร้างโครงการในช่วงที่มีการทำฐานราก บริษัทจะทำการตรวจวัดคุณภาพอากาศทุกวัน ได้แก่ การตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) และ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 (PM2.5) และรายงานผลคุณภาพอากาศทุกสัปดาห์ หลังจากนั้นจะดำเนินการตรวจวัดมลพิษทางอากาศ อาทิ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) เดือนละ 1 ครั้ง ในกรณีที่ผลการตรวจวัดมีค่าเกินมาตรฐาน โครงการจะต้องหยุดการก่อสร้างชั่วคราวเพื่อปรับปรุงแก้ไขจนกว่าผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจะมีค่าไม่เกินมาตรฐานจึงจะดำเนินการก่อสร้างต่อไป

การจัดการพลังงาน

AWC ในฐานะบริษัทผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทตระหนักดีว่าการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกเป็นแหล่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลักของบริษัท ดังนั้น เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์การจัดการพลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไว้ใน 4 ส่วนหลัก มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมทางธุรกิจหลัก

เป้าหมาย: ลดการใช้พลังงานเฉพาะ (Specific Energy Consumption - SEC) ลง 11% จากปีฐานภายในปี 2573

กระบวนการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของเราถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน โดยวิเคราะห์การใช้พลังงานและการบริโภคพลังงานผ่านการรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมและใช้วิธีการที่อ้างอิงจากหลักฐาน กระบวนการนี้ช่วยให้เราสามารถระบุพื้นที่สำคัญที่มีการใช้พลังงานอย่างมากและค้นหาโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้

กระบวนการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการ รายละเอียด
1. การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล
  • รวบรวมข้อมูลผ่านมาตรวัดและค่าไฟฟ้า
  • วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจหาการใช้พลังงานและคำนวณค่าพลังงานเฉพาะ (Specific Energy Consumption - SEC)
2. การเปรียบเทียบและการเทียบมาตรฐาน
  • เปรียบเทียบการใช้พลังงานกับมาตรฐานอุตสาหกรรมและข้อมูลในอดีต
  • อ้างอิงค่าพลังงานเฉพาะในปีฐาน: 221 กิโลวัตต์ชั่วโมง/ตร.ม./ปี (ปี 2017-2019) เพื่อเปรียบเทียบกับค่าพลังงานเฉพาะที่คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2024-2030
3. การระบุพื้นที่ที่ใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญ
  • ระบุพื้นที่และกระบวนการที่ใช้พลังงานสูง (เช่น ระบบ HVAC, การใช้แสงสว่าง) และให้ความสำคัญกับพื้นที่เหล่านี้ในการดำเนินการประหยัดพลังงาน
4. การดำเนินการตามโครงการประหยัดพลังงาน (Energy Saving Initiatives - ESIs)
  • การจัดการการปฏิบัติงาน (ไม่มีการลงทุน): ปรับอุณหภูมิน้ำเย็น, ลดการใช้แสงสว่าง เป็นต้น
  • ESIs ระยะสั้น (ความซับซ้อนต่ำ): ทำความสะอาดเครื่องทำความเย็น, ติดตั้งไฟ LED เป็นต้น
  • ESIs ระยะยาว (ความซับซ้อนสูง): ติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา, ติดตั้งเครื่องทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นต้น
5. การดำเนินการตรวจสอบพลังงาน (Audit)

ใช้ที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการตรวจสอบพลังงานตามมาตรฐาน ASHRAE Level 1 ในสถานที่สำคัญต่าง ๆ ตามกระบวนการดังนี้:

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูล: เก็บข้อมูลการใช้พลังงานและข้อมูลจำเพาะของอุปกรณ์
  2. การสำรวจสถานที่: ตรวจสอบสถานที่เพื่อตรวจหาวิธีการประหยัดพลังงาน
  3. การวิเคราะห์เบื้องต้น: ประเมินศักยภาพในการประหยัดพลังงานและจัดลำดับความสำคัญของมาตรการ
  4. การจัดทำรายงาน:
    • สรุปผลการค้นพบและคำแนะนำ
    • ระบุมาตรการที่รวดเร็วและมีต้นทุนต่ำ
    • ข้อเสนอนแนวทางสำหรับการตรวจสอบการจัดการพลังงานโดยละเอียด
    • ช่วยจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนในพลังงาน
    • ตรวจสอบการปฏิบัติตามมาตรฐานและรองรับการรับรอง เช่น LEED, EDGE เป็นต้น
6. การปรับปรุงประสิทธิภาพและการติดตามผล
  • ติดตามการดำเนินการของ ESIs และวัดผลกระทบ
  • จัดทำรายงานรายไตรมาสเพื่อติดตามค่าพลังงานเฉพาะที่คาดการณ์ไว้
7. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
  • สื่อสารรายงานรายไตรมาสและรวบรวมความคิดเห็นจากหน่วยธุรกิจต่าง ๆ
  • สรุปผลการปฏิบัติงาน แนวทางการพัฒนาแบบ Quick-Win และแผนการปรับปรุง ESIs เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหาร
  • จัดอบรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน
  • สำรวจเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ เช่น เครื่องเป่าลมที่มีประสิทธิภาพสูง และการสร้างแบบจำลองพลังงานอาคาร (Building Energy Modeling - BEM)

การฝึกอบรมด้านการจัดการพลังงานและการสร้างวัฒนธรรมองค์กร

องค์กรของเรามุ่งมั่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานผ่านการจัดโปรแกรมฝึกอบรมที่ครอบคลุม เพื่อสร้างความตระหนักและปรับพฤติกรรมด้านการใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดในหมู่พนักงาน โดยโปรแกรมทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อสร้างวัฒนธรรมการอนุรักษ์พลังงานและลดการใช้พลังงานอย่างมีนัยสำคัญในทุกระดับขององค์กร

ตัวอย่างการฝึกอบรม:

  1. ให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการเลือกใช้เครื่องทำความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานของระบบทำความเย็น
  2. ให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการติดตั้งและประโยชน์ของระบบโซลาร์รูฟท็อปขนาดใหญ่
  3. แนะนำเป้าหมายด้านการอนุรักษ์พลังงานเพื่อใช้ติดตามและบรรลุเป้าหมายในการอนุรักษ์พลังงาน

แต่ละหลักสูตรการฝึกอบรมจะถูกปรับให้เหมาะสมกับแต่ละด้านของการจัดการพลังงาน เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องและสามารถนำไปใช้ในงานประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การลงทุนในโปรแกรมฝึกอบรมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานขององค์กร แต่ยังเสริมสร้างศักยภาพของพนักงานในการมีส่วนร่วมกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเรา และสร้างความมุ่งมั่นในระดับองค์กรเพื่อการลดการใช้พลังงานและสนับสนุนอนาคตที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ

ผลการดำเนินงานปี 2567

ปริมาณการใช้พลังงาน

(หน่วย: เมกะวัตต์ชั่วโมง)

การจัดการทรัพยากรน้ำ

AWC ตระหนักถึงความสำคัญของน้ำในฐานะของทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจการบริการ เนื่องจากธุรกิจหลักของเราเกี่ยวข้องกับการให้บริการลูกค้า นอกจากนี้ ผลกระทบที่อาจเกิดจากความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำ ซึ่งเมื่อรวมกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายและกฎระเบียบอาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัท

จากการพิจารณาดังกล่าว บริษัท จึงให้ความสำคัญกับการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการประเมินการใช้น้ำและความตึงเครียดด้านน้ำ ส่งเสริมการใช้น้ำอย่างรับผิดชอบ และกำหนดแนวทางการจัดการน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ วัตถุประสงค์คือเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำต่อการดำเนินงานของบริษัท

AWC ได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจนในการลดความเข้มข้นในการใช้น้ำต่อรายได้ลง 20% ภายในปี 2030 และเป้าหมายระยะสั้น 14% ภายในปี 2027 นอกจากนี้ บริษัท ยังดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง โครงการเหล่านี้รวมถึงการติดตามการใช้น้ำ สนับสนุนการหมุนเวียนน้ำอย่างเป็นระบบทั้งเพื่อประโยชน์ภายในและภายนอก การหาทรัพยากรน้ำเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจถึงความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการสื่อสารแผนการดำเนินงานให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านช่องทางที่เหมาะสม เช่น การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการจัดการน้ำภายใต้มาตรฐาน ISO 14001 ซึ่งครอบคลุมการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการอนุรักษ์น้ำ ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน โดยเน้นการติดตาม การรีไซเคิล และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเน้นบทบาทของพนักงานและการทบทวนเป็นประจำเพื่อความยั่งยืน เป้าหมายและผลกระทบของบริษัทในด้านความขาดแคลนน้ำและความตึงเครียด รวมถึงการคิดเชิงนวัตกรรมและการแก้ปัญหาเพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการลดและใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ทำงานและการระบุการใช้น้ำที่มีความสำคัญ

การวางแผนจัดการน้ำของ AWC

ระบบบำบัดน้ำเสีย

AWC ได้ติดตั้งระบบบำบัดน้ำอัจฉริยะ (Smart Condenser Water Treatment System) ในทุกอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง โดยมีศูนย์ควบคุมกลางที่ตรวจสอบและปรับการทำงานจากระยะไกลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำ สำหรับโครงการเอเชีนทีค 1.0 บริษัทได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในโรงบำบัดน้ำเสียแบบรวมศูนย์ โดยใช้เทคโนโลยีเมมเบรนไบโอรีแอคเตอร์ (Membrane Bioreactor) เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานท้องถิ่น

ในอนาคต น้ำคุณภาพสูงจากการบำบัดจะถูกนำไปใช้ในโรงงานรีไซเคิลน้ำสำหรับระบบทำความเย็น และการใช้น้ำในโครงการเอเชียทีค 2.2 เพื่อลดการใช้น้ำจากระบบประปา นอกจากนี้ AWC ยังศึกษาการติดตั้งตัวควบคุมน้ำในก๊อกน้ำทุกจุดที่เป็นไปได้ภายในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อประหยัดน้ำโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์ของลูกค้าและผู้เข้าพัก

การรีไซเคิลน้ำ

AWC กำลังก้าวหน้าด้านความยั่งยืนโดยปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อช่วยลดการใช้น้ำจืดผ่านการรีไซเคิลที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น โรงแรม มีเลีย เกาะสมุย จะเริ่มใช้งานระบบบำบัดน้ำเสียที่อัปเกรดแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 โดยมีแผนรีไซเคิลน้ำเสียบำบัดประมาณ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อปีสำหรับการรดน้ำสวนภายในปี 2569 เช่นเดียวกับโครงการพัฒนาโรงแรม บันยันทรี จอมเทียน พัทยา ซึ่งอยู่ในช่วงการก่อสร้าง ได้มีการเพิ่มระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลน้ำภายใน โครงการเหล่านี้ช่วยสนับสนุนเป้าหมายของเราในการลดการใช้น้ำจืดโดยการนำน้ำเสียบำบัดไปใช้กับระบบทำความเย็นและการประยุกต์ใช้ที่ยั่งยืนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำโดยรวม

การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่

การส่งเสริมการนำน้ำกลับมาใช้เพื่อการรดน้ำภายในพื้นที่โครงการ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจโรงแรม ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืน เช่น โรงแรมเชอราตัน สมุย รีสอร์ท, โรงแรมบันยันทรี สมุย และ โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา, ในยาง บีช ได้ใช้น้ำที่บำบัดแล้วในการรดน้ำพื้นที่สีเขียวของโครงการ ซึ่งไม่เพียงช่วยลดการใช้น้ำจืดแต่ยังช่วยดูแลรักษาพื้นที่สีเขียว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ผลการดำเนินงานปี 2566

ปริมาณการใช้น้ำ

(หน่วย: ล้านลูกบาศก์เมตร)

การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน

เป้าหมายระยะยาว: ลดขยะจากการดำเนินงานลงสู่หลุมฝังกลบเป็นศูนย์ภายในปี 2573

ลดขยะจากการก่อสร้างลงสู่หลุมฝังกลบอย่างน้อย 75% ภายในปี 2573

เป้าหมายระยะสั้น: ลดขยะจากการดำเนินงานและการก่อสร้างลงสู่หลุมฝังกลบอย่างน้อย 17% ภายในปี 2569

การประเมินขยะ

กระบวนการประเมินขยะของเรามุ่งเน้นการระบุและจัดการขยะที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานของเราอย่างเป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนที่เป็นระบบเพื่อทำความเข้าใจการผลิตขยะ ระบุพื้นที่สำคัญที่มีการเกิดขยะ และค้นหาโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

กระบวนการ ขั้นตอน คำอธิบาย
1. การเตรียมตัว 1.1 กำหนดแผนจัดการขยะ ระบุพื้นที่สำคัญในการเกิดขยะและโอกาสเพื่อพัฒนาแผนงานที่กำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์ในการจัดการขยะ
1.2 กำหนดเป้าหมายที่วัดผลได้ กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ในการลดปริมาณขยะ
1.3 ให้ความรู้แก่ทีมงาน ฝึกอบรมทีมงานปฏิบัติการ ทีมโครงการ และผู้รับเหมาเกี่ยวกับแนวทางการจัดการขยะและเป้าหมายที่ตั้งไว้
1.4 พัฒนาวิธีการติดตามขยะ จัดทำเอกสารที่ครอบคลุมเพื่อเป็นแนวทางและติดตามความพยายามในการจัดการขยะ
2. การดำเนินการ 2.1 นำมาตรการลดขยะไปใช้ นำกลยุทธ์ไปใช้เพื่อลดการเกิดขยะตั้งแต่ต้นทาง เช่น การเปลี่ยนจากบรรจุภัณฑ์ใช้ครั้งเดียวเป็นภาชนะที่เติมใหม่ได้ การแทนที่ขวดน้ำพลาสติกใช้ครั้งเดียวด้วยขวดแก้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และการใช้เทคโนโลยีเพื่อเปลี่ยนการทำงานเข้าสู่ระบบดิจิตัลเพื่อลดการใช้กระดาษ
2.2 ติดตามการปฏิบัติ ติดตามและประเมินการเกิดขยะและการแยกขยะอย่างสม่ำเสมอ
3. การประเมินผล 3.1 การเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ เก็บข้อมูลขยะโดยใช้แบบฟอร์มติดตามเพื่อให้มั่นใจในความถูกต้อง
3.2 เปรียบเทียบประสิทธิภาพ ประเมินปริมาณขยะที่เกิดขึ้นจริงและอัตราการรีไซเคิลเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดและเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรม
3.3 ดำเนินการตรวจสอบรายเดือน ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อตรวจสอบแนวทางการจัดการขยะและติดตามผลการดำเนินงานให้สอดคล้องกับมาตรฐาน LEED/TREES
4. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง 4.1 ทบทวนตัวชี้วัด ตรวจสอบการจัดการขยะทั่วหน่วยธุรกิจของ AWC และสำนักงานใหญ่เพื่อประเมินประสิทธิภาพการแยกขยะ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเพิ่มความตระหนักในการทิ้งขยะที่ถูกต้องให้กับพนักงาน โดยให้คำแนะนำและการฝึกอบรมอย่างละเอียดเพื่อให้พนักงานแยกขยะได้อย่างถูกต้อง เพิ่มการรีไซเคิล และลดการปนเปื้อนภายในองค์กร
4.2 นวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา จัดสรรงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากรอื่นๆ เพื่อสำรวจแนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ๆ

นวัตกรรมในการลดขยะ

บริษัทของเรามุ่งมั่นที่จะลดขยะผ่านการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในนวัตกรรมและการวิจัยและพัฒนา (R&D) เราได้จัดสรรงบประมาณ บุคลากร และทรัพยากรอื่นๆ เพื่อสำรวจแนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีเป้าหมายในการลดการเกิดขยะจากการดำเนินธุรกิจของเรา ดังต่อไปนี้:

1) แนวทางการจัดการตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน

  • โครงการ reConcept: เป็นโครงการของ AWC เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยเน้นการซ่อมแซมและนำสิ่งของเก่าจากโรงแรมระดับ 5 ดาวมาปรับปรุงใหม่ โครงการนี้เริ่มขึ้นในปี 2563 โดยมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่ ในปีที่ผ่านมา reConcept ได้เปิดตัวคอลเลคชันเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ 2 ชุด ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 916 เมตริกตัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีจำหน่ายที่ร้าน reConcept ที่ Asiatique The Riverfront Destination และออนไลน์ที่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ "Reconcept Décor" ซึ่งเปิดตัวในปี 2566 สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.reConceptDecor.com
  • การออกแบบเพื่อการถอดประกอบ: ศึกษาแนวการการออกแบบโครงการแบบโมดูลที่ช่วยให้การถอดประกอบและการนำส่วนประกอบของอาคารกลับมาใช้ใหม่ได้ง่ายขึ้นในโครงการในอนาคต วิธีนี้ไม่เพียงแต่ยืดอายุการใช้งานของวัสดุ แต่ยังส่งเสริมความยั่งยืนอีกด้วย
  • การจัดการวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์: การนำระบบมาติดตามวัสดุตลอดวงจรชีวิตของพวกมัน ช่วยให้เราส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่และการรีไซเคิล โดยการเข้าใจการเดินทางของวัสดุแต่ละชนิด เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานและลดขยะได้

2) เทคโนโลยีดิจิทัล

  • Building Information Modeling (BIM): การใช้ BIM ช่วยให้เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการคำนวณปริมาณวัสดุ วางแผนการรื้อถอน และจำลองกระบวนการก่อสร้าง เทคโนโลยีดิจิทัลนี้ช่วยลดของเสียโดยการใช้วัสดุอย่างแม่นยำและวางแผนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Internet of Things (IoT): การบูรณาการอุปกรณ์ IoT ช่วยให้เราสามารถติดตามการใช้วัสดุ ปรับปรุงโลจิสติกส์ในซัพพลายเชน และลดการสั่งซื้อที่เกินความจำเป็น เทคโนโลยีอัจฉริยะเหล่านี้มอบข้อมูลแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้เราจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3) กลยุทธ์การลดของเสีย

  • Lean Construction Principles: เรานำหลักการก่อสร้างแบบลีนมาใช้เพื่อลดกระบวนการที่ไม่จำเป็น ลดสินค้าคงคลังที่เกิน และขจัดกิจกรรมที่ไม่เพิ่มมูลค่า วิธีการเชิงกลยุทธ์นี้ช่วยให้เราระบุและกำจัดของเสียได้ตลอดโครงการก่อสร้าง
  • Energy-Efficient Construction: การลงทุนในแนวปฏิบัติในการก่อสร้างที่ประหยัดพลังงานช่วยลดของเสียที่เกิดจากการก่อสร้างและการดำเนินงาน วิธีการเหล่านี้ไม่เพียงช่วยประหยัดพลังงาน แต่ยังช่วยลดการผลิตของเสียโดยรวม

4) การประกอบสำเร็จและการควบคุมจากโรงงาน

  • งานประกอบสำเร็จที่โรงงาน: ด้วยการดำเนินการประกอบสำเร็จในสภาพแวดล้อมของโรงงานที่ควบคุมได้ เราสามารถจัดการและลดของเสียได้ดียิ่งขึ้น วิธีการนี้ช่วยให้ใช้วัสดุได้อย่างแม่นยำและลดการสร้างของเสียในสถานที่ก่อสร้าง

At AWC, as a hotels business, we prioritize delivering exceptional guest experiences while minimizing our environmental impact. As our core focus is on hospitality, we do not extensively collect data on plastic packaging (e.g., weight, recyclable, compostable) as it is not directly applicable to our operations. Our efforts concentrate on energy efficiency, water conservation, waste reduction by partnering with sustainable renowned hotel operators . By aligning data collection with our core objectives, we aim to make a targeted impact in reducing our ecological footprint while maintaining responsible practices

ผลการดำเนินงานปี 2566

ปริมาณของเสียทั้งหมด

(หน่วย: ตัน)

การจัดการสูญเสียและขยะอาหาร

เป้าหมาย: ลดการสูญเสียและขยะอาหาร 50% ตลอดห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2573

AWC มุ่งมั่นที่จะลดขยะอาหารลงสู่หลุมฝังกลบ โดยปฏิบัติตามลำดับขั้นของการฟื้นฟูอาหาร (Food Recovery Hierarchy) ผ่านการปฏิบัติตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) AWC มีเป้าหมายเพื่อลดการสูญเสียอาหารในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการบริโภค ซึ่งรวมถึงการผลิตอาหารตามความต้องการ การแยกขยะอาหาร และการแจกจ่ายอาหารส่วนเกินที่ยังมีคุณภาพให้กับชุมชน นอกจากนี้ AWC ยังร่วมมือกับพันธมิตรหลายฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจเอกชน และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากอาหารส่วนเกินและขยะอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือเหล่านี้ได้รับการกำหนดทิศทางด้วยหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนและมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร

Additional Information:

ขั้นตอนวงจรชีวิตของอาหาร แหล่งที่มา การวัดผล แนวทางการลดการสูญเสียและขยะอาหาร
การจัดซื้อและการสั่งซื้อ
  1. สั่งอาหารเกินความต้องการ
  2. ข้อกำหนดที่ไม่ถูกต้อง
  3. ปัญหาจากผู้จัดจำหน่าย
วัดปริมาณอาหารที่สั่งเกินความต้องการจริง
  1. ใช้ข้อมูลในอดีตและคาดการณ์ความต้องการอาหารอย่างแม่นยำ
  2. ออกแบบเมนูที่ลดของเสีย ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล และมีขนาดจานที่ยืดหยุ่น
การจัดเก็บและการจัดการสินค้าคงคลัง
  1. สต๊อกเกิน
  2. การจัดเก็บที่ไม่ถูกต้อง
  3. ความเสียหายจากการจัดการ
  4. การหมดอายุ
คำนวณปริมาณอาหารที่เสียหายก่อนใช้งาน
  1. ตรวจสอบเงื่อนไขการจัดเก็บ (อุณหภูมิ, ความชื้น) อย่างเหมาะสม
  2. ใช้วิธีวัตถุดิบเข้าก่อนนำออกไปใช้ก่อน (First In, First Out) เพื่อใช้วัตถุดิบก่อนที่จะหมดอายุ
การเตรียมและการปรุงอาหาร
  1. การผลิตเกิน
  2. การเสียหาย
  3. การตัดแต่ง
วัดปริมาณอาหารที่เหลือหลังการเตรียม
  1. ฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการเตรียมอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. ใช้เศษอาหารเพื่อทำซุปหรือเมนูใหม่
  3. เตรียมอาหารเป็นชุดเล็กเพื่อลดของเหลือและรักษาความสดใหม่
การเสิร์ฟและการบริโภค
  1. ขยะจากจาน
  2. ขยะจากบุฟเฟต์
  3. การควบคุมปริมาณอาหาร
ประมาณปริมาณของเหลือในจานหรือบุฟเฟต์
  1. ใช้มาตรการควบคุมปริมาณอาหาร
  2. ปรับเมนูบุฟเฟต์ตามความนิยมและพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้า
  3. เปลี่ยนของเหลือเป็นซุปหรือเมนูใหม่ที่ยังไม่ได้ทาน
ขยะหลังการบริโภค
  1. ของเหลือจากลูกค้า
  2. ขยะจากการจัดการ
วัดปริมาณของเหลือที่สามารถทานได้หลังมื้ออาหาร
  1. ร่วมมือกับองค์กรการกุศลเพื่อบริจาคอาหารส่วนเกินที่ยังบริโภคได้ เช่น SOS Thailand
  2. ทำโครงการปุ๋ยหมักเพื่อลดขยะอาหารที่ไม่สามารถบริโภคได้

ผลการดำเนินงานปี 2566

ปริมาณการสูญเสียและขยะอาหารรวม

(หน่วย: ตัน)

ปริมาณการสูญเสียและขยะอาหารต่อหน่วยรายได้

(หน่วย: ตัน/ล้านบาทของรายได้รวม)

ความมุ่งมั่นของกลุ่ม AWC ในด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน

ตัวขับเคลื่อนธุรกิจ: AWC มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน

  • โดยเฉลี่ยแล้วคนไทยสามารถสร้างขยะจำนวน 1.15 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน โดยในปี 2561 ประเทศไทยมีขยะทิ้งสู่สิ่งแวดล้อมจำนวนถึง 28 ล้านตัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้ การขาดแคลนแหล่งอาหารอันเนื่องมาจากจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นจะทำให้เกิดการสูญเปล่าทั้งในด้านธุรกิจและศีลธรรม
  • AWC จึงได้ริเริ่มการนำหลักแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ผ่านการส่งเสริมรูปแบบการนำกลับมาใช้ซ้ำ ใช้ใหม่ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร การแยกขยะ และการกำจัดขยะอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติแก่คนรุ่นต่อไป

ที่ AWC เราให้ความสำคัญต่อการลด การสูญเสียอาหารและขยะอาหาร โดยรวมและการใช้ต้นแบบการหมุนเวียนทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าของโรงแรมในเครือ ด้วยเหตุนั้น เราจึงสนับสนุนให้โรงแรมในเครือใช้และปฏิบัติตามพันธะสัญญาเฉพาะด้าน การสูญเสียอาหารและขยะอาหาร ที่ประกาศโดยแต่ละแบรนด์โรงแรม

กลุ่มโรงแรมในเครือ บันยันทรี

กลุ่มโรงแรมในเครือ บันยันทรี มีเป้าหมายระยะยาวที่จะลดขยะอาหารลง 30% และเปลี่ยนจากการฝังกลบ 50% ภายในปี 2568 โดยจะลดขยะอาหารลง 50% และเปลี่ยนจากการฝังกลบเป็น 100% ภายในปี 2573

กลุ่มโรงแรมในเครือ ฮิลตัน

กลุ่มโรงแรมในเครือ ฮิลตัน มุ่งมั่นที่จะลดขยะอาหารลง 50% ภายในปี 2573

กลุ่มโรงแรมในเครือ แมริออท

กลุ่มโรงแรมในเครือ แมริออท มุ่งมั่นที่จะลดขยะอาหารลง 50% ภายในปี 2568

โครงการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน

AWC เราตระหนักถึงความสำคัญของบรรจุภัณฑ์ต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในธุรกิจการบริการและค้าปลีกของเรา ความมุ่งมั่นของเราต่อความยั่งยืนผลักดันให้เรานำนวัตกรรมและแนวทางปฏิบัติใหม่ ๆ มาใช้เพื่อลดผลกระทบที่เป็นลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้ดำเนินนโยบายบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนอย่างครอบคลุมเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนของเรา

  • เรามุ่งมั่นที่จะยกเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง โดยเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เช่น การเปลี่ยนจากขวดน้ำพลาสติกเป็นขวดแก้วในทุกสินทรัพย์ที่เราดำเนินการ ซึ่งช่วยลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวและส่งเสริมการใช้ลังขวดแก้วแบบใช้ซ้ำได้
  • เรากำลังเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของขวัญที่แจกฟรีให้เป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้หรือมีส่วนประกอบของวัสดุรีไซเคิล เช่น การใช้กล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษที่รีไซเคิลได้ง่าย รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิล
  • เรามุ่งมั่นที่จะค้นหาทางเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนไปใช้ถุงกระดาษ พลาสติกที่ย่อยสลายได้ หรือวัสดุธรรมชาติจากแหล่งในท้องถิ่นที่ย่อยสลายได้ 100%
  • เรารับรองว่าบรรจุภัณฑ์ที่ใช้หลังการบริโภคภายใต้การดำเนินงานของเราจะถูกนำไปรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละโรงแรมมีขั้นตอนที่ชัดเจนในการบันทึกประเภทของขยะต่าง ๆ เราเลือกใช้พันธมิตรรีไซเคิลที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการรับรองในการจัดการขยะรีไซเคิลของเรา

ความหลากหลายชีวภาพ

บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยเหตุนี้ บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงการต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า ในทุกพื้นที่ที่มีอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทตั้งอยู่ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้สามารถส่งต่อสู่คนรุ่นใหม่ได้อย่างยั่งยืน รวมถึงการปลูกจิตสำนึก เสริมสร้างความรู้แก่พนักงาน ชุมชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านการอบรม ให้มีความตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า

การประเมินความหลากหลายทางชีวภาพ

จำนวนสถานที่ พื้นที่ (เฮกตาร์)
1. ภาพรวม - จำนวนสถานที่ทั้งหมดที่ใช้ในการดำเนินงาน 42 138.36
2. การประเมิน - การประเมินผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สำหรับพื้นที่ที่ใช้ในการดำเนินงาน 33 81
3. การประเมินความอ่อนไหว - จำนวนสถานที่ที่อยู่ใกล้กับความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ 8 42.47
4. แผนการจัดการ - จำนวนสถานที่ที่มีแผนการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ 8 42.47

เต่าทะเลวางไข่บนหาดของโรงแรมบันยันทรี สมุย

เต่าตนุถูกจัดให้อยู่ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (International Union of Conservation of Nature’s: IUCN) ว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) และเป็นที่ทราบกันดีว่า เต่าตนุจะวางไข่เฉพาะบนชายหาดที่เงียบสงบและห่างไกลผู้คน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2563 โรงแรมบันยันทรี สมุย พบเต่าตนุ จำนวน 1 ตัว วางไข่ที่หน้าชายหาดโรงแรม จำนวน 5 รัง รวมเป็นไข่มากกว่า 600 ฟอง

โครงการธนาคารปูที่โรงแรมเชอราตัน สมุย

โรงแรม เชอราตัน สมุย ร่วมมือกับธนาคารปูม้าเกาะสมุยโดยมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูและเพิ่มจำนวนประชากรปูม้าสายพันธุ์ท้องถิ่นของเกาะสมุย โครงการนี้ช่วยส่งเสริมทรัพยากรประมง และระบบนิเวศ เสริมสร้างทรัพยากรอาหารและความเป็นอยู่ของครอบครัวชาวประมงพื้นถิ่น ในขณะเดียวกัน โครงการยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง AWC กับชุมชนให้แน่นแฟ้นผ่านความร่วมมือกันดังกล่าว อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในโครงการเพื่อความยั่งยืนที่ถูกนำไปแสดงในงานแถลงข่าว (แบบไฮบริด) – สื่อมวลชนเอเปคในปี 2565 อีกด้วย

ความร่วมมือระหว่างโรงแรมบันยันทรี สมุย และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

โครงการนี้มุ่งเน้นการฟื้นฟูแนวปะการังรอบ ๆ โรงแรมบันยันทรี สมุย โดยการเก็บเศษปะการังที่หลุดจากพายุบริเวณชายฝั่ง เศษปะการังเหล่านี้จะถูกฟื้นฟูก่อนนำไปปลูกใหม่บนแนวปะการัง และมีการติดตามผลเป็นระยะ นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเล โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำบริเวณแนวปะการัง

รังเต่าตนุถูกพบบนชายหาดสมุยเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 6 ปี และเพื่อเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเต่าตนุ ทางโรงแรมได้ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ศูนย์วิจัยชุมพร) ทำการเคลื่อนย้ายไข่ (จำนวน 2 รัง จาก 5 รัง) ให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล และสร้างพื้นที่อนุบาลไข่เต่าเพื่อป้องกันสัตว์นักล่าก่อนที่ไข่จะฟักตัว ในเดือนพฤษภาคม 2563 มีเต่าตนุที่ฟักไข่ได้สำเร็จ จำนวน 269 ตัว และเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ โรงแรมบันยันทรี สมุย ได้ระงับโครงการก่อสร้างทุกประเภทตลอดแนวชายหาด และทำงานเพื่อป้องกันแนวปะการังในพื้นที่ ทั้งยังเฝ้าติดตามการทำรังของเต่าทะเลตามแนวชายหาดโดยหวังว่าจะมีเต่ากลับมาทำรังมากขึ้น

AWC Tree Planting Project

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ของ AWC โครงการปลูกต้นไม้จึงถูกริเริ่มขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เพื่อขยายพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกและอนุรักษ์ต้นไม้ รวมถึงเป็นการชดเชยปริมาณคาร์บอนที่ถูกปล่อยออกไป ซึ่งโครงการดังกล่าวประกอบด้วยการปลูกต้นไม้ผ่าน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ โครงการที่ดำเนินกิจการอยู่ โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และการเข้าร่วมโครงการอาสาปลูกป่า

หมวดโครงการ

...

โครงการที่ดำนเนินกิจการอยู่

...

โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

...

โครงการอาสาปลูกป่า

จำนวนต้นไม้ที่ปลูกและได้รับการอนุรักษ์ที่โครงการของ AWC