แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น สร้างการเติบโตครั้งใหม่ เปิดตัว “โรงแรม บันยันทรี กระบี่” ยกระดับประสบการณ์พักผ่อนอันเหนือระดับบนหาดกระบี่

26 ตุลาคม 2563

AWC-Banyan-Tree-Krabi-banner.jpg

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น สร้างการเติบโตครั้งใหม่ เปิดตัว “โรงแรม บันยันทรี กระบี่” ยกระดับประสบการณ์พักผ่อนอันเหนือระดับบนหาดกระบี่ครั้งใหม่ในรอบทศวรรษ สะท้อนความมุ่งมั่นในการสร้างจุดหมายปลายทางสุดพิเศษ เสริมการท่องเที่ยวไทย

แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาโครงการภายใต้ความร่วมมือกับ “บันยันทรีกรุ๊ป” เครือโรงแรมหรูชั้นนำระดับโลก ในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “โรงแรม บันยันทรี กระบี่” (Banyan Tree Krabi) ลักชัวรี่รีสอร์ตหรูแห่งใหม่บนชายหาดทับแขก หนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในจังหวัดกระบี่ และนับเป็นโรงแรมแห่งแรกของ AWC ในจังหวัดกระบี่ บนทำเลทองติดที่ดินอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นับเป็นการสร้างนิยามใหม่ของความเหนือระดับของลักชัวรี่รีสอร์ตในจังหวัดกระบี่ให้เจิดจรัสอีกครั้งในรอบกว่า 10 ปี สะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้กับธุรกิจโรงแรมไทย ต้อนรับการเติบโตครั้งใหม่ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง

คุณวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า “การเปิดตัวของ “โรงแรม บันยันทรี กระบี่” ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของ AWC ในจังหวัดกระบี่ ซึ่งจังหวัดกระบี่นับเป็น Top Location ของประเทศที่พร้อมด้วยศักยภาพในการต้อนรับนักเดินทาง นับเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นต่อการเดินหน้าลงทุนเพื่อขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ท่ามกลางความท้าทายครั้งใหญ่ตลอดเวลาที่ผ่านมาของปี 63 นี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนถึงศักยภาพ และความแข็งแกร่งของ AWC ในการดำเนินแผนกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจที่มุ่งเน้นการเติบโต ตลอดจนสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนในระยะยาวเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อีกทั้งยังเป็นการสานต่อการสร้างเครือข่ายพันธมิตรอันแข็งแกร่งผู้ประกอบการโรงแรมระดับโลกที่หลากหลาย เพื่อนำเสนอแบรนด์โรงแรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อเข้าถึงลูกค้าในทุกกลุ่มอย่างครอบคลุม บันยันทรีกรุ๊ปนับเป็นเครือโรงแรมระดับโลกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเพื่อสร้างประสบการณ์แห่งความเหนือระดับ การสร้างสรรค์ลักชัวรีรีสอร์ตแห่งนี้นับเป็นการเสริมกำลังความร่วมมือกับกลุ่มบันยันทรี และเป็นการสร้างขีดการแข่งขัน รวมทั้งยกระดับการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ เมืองท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติอันบริสุทธิ์ สวยงามเลื่องลือไปทั่วโลก และไม่มีการเปิดตัวรีสอร์ตระดับลักชัวรีใหม่มานานกว่าทศวรรษ ตอกย้ำชื่อเสียงของประเทศไทยอีกครั้งในฐานะสุดยอดจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาดระดับโลก”


“กระบี่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นมายาวนานและมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ด้วยการพัฒนาโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อรองรับการคมนาคมและการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น การขยายสนามบินนานาชาติกระบี่เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 8 ล้านคนต่อปี เพิ่มจาก 4 ล้านคนต่อปีในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 โครงการโครงข่ายเชื่อมโยงเส้นทางเดินเรือภูเก็ต-พังงา-กระบี่ หรือ“วงแหวนแห่งอันดามัน” ของกรมเจ้าท่าโดยการเปิดเส้นทางเดินเรือเฟอร์รี่ 5 เส้นทาง เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างภูเก็ต พังงา กระบี่ เกาะลันตา และเกาะอื่น ๆ ในพื้นที่ข้างเคียง และโครงการรถไฟรางคู่สายใหม่ เส้นทางภูเก็ต พังงา และสุราษฎร์ธานี เป็นต้น” คุณวัลลภาเสริม


การเปิดตัวโรงแรมบันยันทรี กระบี่ ส่งผลให้บริษัทมีโรงแรมที่เปิดดำเนินการทั้งหมดเพิ่มขึ้นจาก 17 แห่งเป็น 18 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพักทั้งหมดจาก 4,869 ห้องเป็น 4,941 ห้อง ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในกระแสเงินสดจากกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) ด้วยการสร้างความหลากหลายให้กับแบรนด์พอร์ตโฟลิโอของบริษัท เสริมขีดความสามารถในการสร้างประสบการณ์ที่มีลักษณะเฉพาะให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นการสร้างความแปลกใหม่ในการผลักดันการท่องเที่ยวในประเทศ “ไทยเที่ยวไทย” พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท ในตำแหน่งผู้นำของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย

โรงแรมบันยันทรี กระบี่
บันยันทรี กระบี่ ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจีของเขาหงอนนาค อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ใกล้อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยพูลวิลล่าริมทะเล (Pool Villa) และห้องพูลสวีท (Pool Suite) รวม 72 ห้อง ห้องพักทั้งหมดมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือส่วนตัว หันหน้ารับวิวอันงดงามและขอบฟ้าของทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของจังหวัดกระบี่ และเป็นหนึ่งในจุดวิวพระอาทิตย์ที่สวยที่สุดในประเทศไทย ท่ามกลางธารน้ำที่ไหลลดหลั่นเป็นชั้นจากชะง่อนเขาหงอนนาคสู่คลองที่แวดล้อมด้วยไม้ดอกนานาพันธุ์ในพื้นที่รีสอร์ตก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลอันดามัน

ห้องพักแบบสวีทและวิลล่า มีให้เลือกถึง 7 แบบ เริ่มจาก ดีลักซ์ พูล สวีท (Deluxe Pool Suite) ขนาด 99 ตร.ม. ที่มีระเบียงและสระว่ายน้ำส่วนตัว ไปจนถึง เพรสซิเดนซ์เชียล บีชฟร้อนท์ พูลวิลล่า (Presidential Beachfront Pool Villa) ที่มีขนาด 587 ตร.ม. ที่สามารถเชื่อมกับวิลล่าข้างเคียงเพื่อจัดห้องนอนได้สูงสุดถึง 7 ห้องนอน รวมพื้นที่กว่า 1,335 ตร.ม.

สิ่งอำนวยความสะดวกในรีสอร์ตประกอบด้วย ห้องอาหาร 2 แห่ง คือ ห้องอาหารแซฟฟรอน (Saffron Restaurant) ที่มีเอกลักษณ์ด้วยการเดินทางเกาะริมขอบเขาด้วยลิฟต์โดยสารแบบพิเศษ (Electric Funicular) และประสบการณ์การรับประทานอาหารท่ามกลางธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ของชายหาดทับแขก ที่เบิร์ด เนส (Bird’s Nest) ห้องอาหารนานาชาติเดอะ นากา คิชเช่น (The Naga Kitchen) และบาร์เกล็ดแก้วริมหาด (Kredkaew Bar) คลับสำหรับเด็กพร้อมสวนน้ำ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ ห้องประชุมสัมมนาเมืองมรกต และที่ขาดไม่ได้คือสำหรับความเป็นแบรนด์ระดับโลกของบันยันทรีในการมุ่งสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับแขกผู้มาพัก นั่นคือ สปาที่ตกแต่งในบรรยากาศป่าฝนเขตร้อนและวารีบำบัด ‘เรน ฟอเรสท์’

แนวคิดการออกแบบบันยันทรี กระบี่ ได้รับแรงบันดาลใจจากน้ำ และพญานาค ตำนานศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของคนกระบี่ ด้วยแนวภูเขาที่ไล่เรียงจากเขาหงอนนาค หนองทะเล และเขาแหลมหางนาค เริ่มต้นประสบการณ์แห่งตำนาน จากทางเข้าที่สะท้อนถึงการเข้าสู่เมืองอันเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งตำนานพญานาค ผ่านสะพานหมอกที่เชื่อมต่อบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม เข้าสู่บันไดพญานาคที่ทอดตัวผ่านผืนน้ำลงไปยังห้องจัดประชุมด้านล่างซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นเมืองมรกตใต้บาดาล ด้วยฉากหลังของทะเลสีเขียวมรกตและเส้นสายของหินงอกหินย้อยอันวิจิตร เกิดเป็นภาพที่งดงาม ตลอดจนผลงานศิลปะและเส้นสายของการตกแต่งในห้องพักต่าง ๆ ที่มีลวดลายเป็นคลื่นน้ำที่เกิดจากเคลื่อนตัวของพญานาค และการใช้องค์ประกอบของภูมิทัศน์ทางธรรมชาติเพื่อสร้างบรรยากาศและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบริเวณโดยรอบโรงแรม


ด้วยมาตรฐานใหม่ภายใต้โครงการ “Safe Sanctuary” ของบันยันทรีกรุ๊ป แขกผู้มาพักที่บันยันทรี กระบี่ สามารถมั่นใจได้ถึงมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยที่เคร่งครัดรัดกุมโดยให้ความสำคัญกับการสร้างสุขภาวะ
ที่ดีและการเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ บริการเช็คอิน-เช็คเอาท์จะดำเนินการแบบเป็นส่วนตัวภายในห้องพัก ก่อนเดินทางถึงรีสอร์ต แขกทุกคนจะได้รับการติดต่อจาก Banyan Tree Host ซึ่งเป็นเสมือนบัทเลอร์ส่วนตัวคอยให้บริการในระหว่างการเข้าพัก หลังจากเช็คอิน แขกจะได้รับสมาร์ทโฟน Portier ซึ่งสามารถใช้โทรศัพท์ข้ามประเทศและบริการดาต้าแบบไม่จำกัด เพื่อติดต่อสื่อสารกับ Banyan Tree Host ในการใช้บริการต่าง ๆ ภายใน
รีสอร์ต ตั้งแต่การสั่งอาหารมาที่ห้องพัก จองโปรแกรมท่องเที่ยว รูมเซอร์วิส บริการซักรีดและบริการอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ครบประสบการณ์สุดพิเศษ

บันยันทรี เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะผู้พิทักษ์ความยั่งยืน โรงแรมบันยันทรี สมุย ซึ่งเป็นรีสอร์ตในเครือ AWC ได้รับการรับรองจาก EarthCheck องค์กรด้านความยั่งยืนระดับโลก เมื่อปี 2561 นับเป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองระดับสูงสุดนี้

ย้อนกลับ